การเติบโตทางธุรกิจท่ามกลางการแข่งขันในยุคปัจจุบัน นอกจากสินค้า, บริการ หรือกลยุทธ์การบริหารแล้ว คุณภาพของบุคลากรก็ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กร แต่ความท้าทายซึ่งหลาย ๆ องค์กรพบ คือพนักงานยังมีศักยภาพไม่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ธุรกิจจึงต้องลงทุนในวิธีการพัฒนาบุคลากรในองค์กร เพื่อเสริมสร้างศักยภาพและทักษะให้สูงขึ้น ซึ่งถือเป็นวิธีที่คุ้มค่าต่อการลงทุนในระยะยาว
ในบทความนี้ จะขอนำเสนอ Solution ตลอดจนถึงเครื่องมือในการพัฒนาบุคลากรในองค์กรในยุคสมัยใหม่ ที่จะช่วยให้สามารถออกแบบการเรียนรู้ของบุคลากรแต่ละราย เพื่อปิดช่องว่าง เพิ่มศักยภาพ และเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันขององค์กรให้สูงขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ
การพัฒนาบุคลากร หมายถึงกระบวนการต่าง ๆ เพื่อปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานของสมาชิกทีมในมิติต่าง ๆ ให้เป็นไปในทางที่ดี ไม่ว่าจะเป็นส่วนของทักษะ (Skill) และทัศนคติ (Attitude) โดยมีจุดประสงค์คือ ให้มีความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลง อีกทั้งสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อสอดคล้องกับวิสัยทัศน์, เป้าหมาย รวมถึงกลยุทธ์ขององค์กรในระยะยาว
การพัฒนาทักษะกับองค์ความรู้อย่างมีแบบแผน จะช่วยให้บุคลากรมีทักษะ ความรู้ และสมรรถนะที่เหมาะสมกับบทบาทการทำงาน และสอดคล้องกับความต้องการและทิศทางขององค์กร นำไปสู่การปฏิบัติงานอย่างเป็นระบบ ช่วยรับมือกับความท้าทาย ไปจนถึงรูปแบบการทำงานอันซับซ้อนได้ดีขึ้น ส่งผลดีต่อการดำเนินการแบบองค์รวม พร้อมเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันขององค์กร
ท่ามกลางโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรสดเร็ว องค์กรที่มีบุคลากรศักยภาพสูง สามารถปรับตัวอย่างรวดเร็ว ย่อมสร้างความได้เปรียบเสมอ การพัฒนาบุคลากรในองค์กรอย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้พร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลง ยืดหยุ่น และสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อเข้าสู่การแข่งขันอันท้าทายขึ้นได้
การพัฒนาบุคลากรในองค์กรยังแสดงถึงความใส่ใจต่อพนักงาน ซึ่งจะสร้างความผูกพัน ความภักดีต่อองค์กร อีกทั้งองค์กรยังรักษาพนักงานที่มีศักยภาพสูง (High-Potential Employees) ไว้ได้ โดยใช้ต้นทุนน้อยกว่าการสรรหาหรือฝึกอบรมพนักงานใหม่
รากฐานสำคัญของการพัฒนาบุคลากร คือการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) หรือการส่งเสริมให้บุคลากร แสวงหาความรู้ใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการเพิ่มทักษะเดิม การเรียนรู้ทักษะใหม่ และการส่งเสริมการแบ่งปันความรู้ภายในองค์กร เพื่อให้องค์กรและบุคลากรพร้อมสำหรับโอกาสกับความท้าทายในอนาคต
เพื่อให้การพัฒนาบุคลากรเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ตามเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ขององค์กร ฝ่ายทรัพยากรบุคคล จึงต้องดำเนินตามกระบวนการ ซึ่งประกอบไปด้วย 4 หลักการสำคัญดังนี้
เมื่อสามารถระบุเป้าหมายได้แล้ว ต่อไปคือการกำหนดวัตถุประสงค์การพัฒนาให้ชัดเจน โดยควรมีความเฉพาะเจาะจง, วัดผลได้, บรรลุผลได้, สอดคล้องกับความต้องการกับทิศทางขององค์กร รวมถึงมีกรอบเวลาชัดเจน โดยทั้งหมดนี้จะใช้กำหนดการออกแบบหลักสูตร, กิจกรรม ตลอดจนวิธีพัฒนาให้ไปในทิศทางที่ต้องการ
สิ่งแรกที่ต้องทำ คือการวิเคราะห์เพื่อระบุช่องว่างระหว่างสมรรถนะจากพนักงานที่มีอยู่ (Current Competencies) กับสมรรถนะขององค์กรคาดหวังหรือจำเป็นต้องมี (Required Competencies) ทั้งในปัจจุบันและอนาคต โดยอาศัยข้อมูลประกอบจากมิติต่าง ๆ เช่น ผลการประเมินการปฏิบัติงาน, ข้อมูลจากแบบสำรวจความคิดเห็นพนักงาน, การสัมภาษณ์หรือหารือกับผู้บังคับบัญชาสายตรง, ข้อเสนอแนะจากเพื่อนร่วมงานหรือผู้ใต้บังคับบัญชา ข้อมูลเชิงกลยุทธ์ และแผนธุรกิจขององค์กร การวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้ระบุสิ่งที่ควรพัฒนาได้อย่างแม่นยำ ทั้งในระดับองค์กร ระดับหน่วยงาน ไปจนถึงระดับบุคคล
วิธีการพัฒนาบุคลากรที่เหมาะสม ควรพิจารณาจากวัตถุประสงค์ เนื้อหา, กลุ่มเป้าหมาย อีกทั้งทรัพยากรที่มี จากเครื่องมือและวิธีการต่าง ๆ เช่น
โดยต้องเลือกวิธีการให้เหมาะสมกับกลยุทธ์ตามเป้าหมายขององค์กร เพื่อเพิ่มโอกาสความสำเร็จ
เพื่อให้ทราบว่าการลงทุนในการพัฒนาบุคลากรนั้นเป็นไปตามจุดประสงค์และคุ้มค่าหรือไม่ ต้องมีการติดตามพร้อมประเมินผลอย่างเป็นระบบ โดยอ้างอิงจากหลักเกณฑ์ดังนี้
ข้อมูลทั้งหมดนี้ จะถูกนำมาประเมินและวิเคราะห์ เพื่อวัดผลตอบแทนจากการลงทุน และสามารถใช้เป็น Feedback สำหรับการปรับปรุงแผน ไปจนถึงกระบวนการพัฒนาบุคลากรในรอบต่อไปให้ตรงตามความต้องการยิ่งขึ้น
วิธีการพัฒนาบุคลากรนั้น จะมีอยู่หลากหลายรูปแบบ เพื่อตอบสนองวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันในบริบทขององค์กร, กลุ่มเป้าหมาย, งบประมาณ, หรือทักษะที่ต้องการพัฒนา โดยแนวทางที่ใช้กันโดยทั่วไป ได้แก่
การจัดฝึกอบรม เป็นวิธีที่มีความเป็นทางการ เน้นการถ่ายทอดความรู้และทักษะ ซึ่งสำคัญต่อบทบาท ไปจนถึงการปฏิบัติงาน สามารถดำเนินได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น การฝึกอบรมในห้องเรียน (Instructor-Led Training - ILT), การฝึกอบรมเสมือนจริงผ่านระบบออนไลน์ (Virtual ILT), การเรียนรู้ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ด้วยตนเอง (E-learning) ไปจนถึงการบริหารจัดการการเรียนรู้ผ่านระบบ LMS ที่สามารถติดตามพัฒนาการ สร้างคลังความรู้ขององค์กรได้
การจัดสัมมนาช่วยส่งเสริมการเข้าร่วมกิจกรรมนอกองค์กร เพื่อเปิดรับความรู้ใหม่, แนวปฏิบัติที่ดีที่สุด พร้อมแนวโน้มล่าสุดในสายอาชีพหรืออุตสาหกรรม เป็นการเปิดมุมมองให้กว้างขึ้น สร้างแนวคิดเชิงนวัตกรรม รวมถึงสร้างเครือข่ายทางวิชาชีพ สำหรับอนาคต
เน้นการเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติจริง ให้ผู้เรียนมีส่วนร่วม และมีโอกาสฝึกฝนความสามารถ ลองแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า รวมถึงการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ช่วยให้บุคลากรเกิดความเข้าใจในเนื้อหาเชิงลึก เห็นภาพการนำไปปรับใช้ได้ชัดเจน พร้อมรับข้อมูลการ Feedback เพื่อการพัฒนาในทันที
อีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญในการพัฒนาบุคลากร โดยผู้ให้คำปรึกษาจะแบ่งปันข้อมูล ข้อคิดเห็น หรือข้อเสนอแนะที่เหมาะสม เพื่อช่วยให้ผู้รับตัดสินใจและแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด นอกจากนี้ กระบวนการให้คำปรึกษายังช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ รวมถึงการตระหนักรู้ของบุคลากร ซึ่งนำไปสู่การพัฒนาความสามารถของตนเอง จนบรรลุเป้าหมายตามที่องค์กรต้องการได้ในระยะยาว
หัวหน้างานจะมอบหมายโครงการใหม่ ๆ เพื่อเปิดโอกาสให้บุคลากรเรียนรู้และพัฒนาทักษะผ่านการปฏิบัติงานจริง โดยจะได้รับการฝึกฝนทักษะจำเป็นต่องานประจำ ควบคู่ไปกับงานที่มีความท้าทายมากขึ้น เช่น การแก้ไขปัญหาหน้างาน การรับผิดชอบโครงการขนาดใหญ่ หรือการริเริ่มงานด้วยตนเอง ซึ่งถือเป็นวิธีการพัฒนาบุคลากร ทั้งยังเป็นการเตรียมความพร้อมให้พนักงาน สำหรับบทบาทและความรับผิดชอบที่สูงขึ้นในอนาคต
ให้บุคลากรสลับมารับผิดชอบงานในบทบาทหรือหน่วยงานอื่นตามแผนและช่วงเวลาที่กำหนด เพื่อเรียนรู้กระบวนการทำงานหลากหลาย พัฒนาทักษะข้ามสายงาน พร้อมทั้งเข้าใจภาพรวมของธุรกิจ ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งวิธีนี้จะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในองค์กร พร้อมปูทางสู่เส้นทางความก้าวหน้าทางอาชีพ
การเรียนรู้ด้วยตัวเอง คือบุคลากรสามารถเลือกหัวข้อที่ต้องการเรียนรู้และช่วงเวลาตามความสนใจ โดยมีองค์กรเป็นผู้สนับสนุน เช่น การจัดหาทรัพยากรอย่างแพลตฟอร์มการเรียนรู้ เช่น LinkedIn Learning, Coursera หรือให้เวลาสำหรับการเรียนรู้ การส่งเสริม SDL ช่วยสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาความสามารถในการปรับตัวเรียนรู้
ดังนั้น การพัฒนาบุคลากร หมายถึงการลงทุนเชิงกลยุทธ์จำเป็นต่อศักยภาพในการแข่งขันอย่างยั่งยืน ผ่านเครื่องมือหรือแนวทางอันหลากหลาย โดยมีเป้าหมายสำคัญเพื่อเสริมสร้างศักยภาพของบุคลากรในทุกระดับ ทั้งในด้านความรู้ ทักษะ และสมรรถนะ ให้สามารถปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจได้ พร้อมนำสิ่งที่เรียนรู้มายกระดับการปฏิบัติงานจริง ขยายขอบเขตให้พร้อมสำหรับความท้าทายรูปแบบต่าง ๆ จึงนับได้ว่าเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนผลิตภาพ นวัตกรรม พร้อมสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันอย่างยั่งยืนให้กับองค์กรในระยะยาว
เพื่อให้การพัฒนาบุคลากรเป็นไปได้อย่างมีแบบแผน และธุรกิจสามารถสร้างข้อได้เปรียบทางการแข่งขันอย่างยั่งยืน (Sustainable Competitive Advantage) คุ้มค่าต่อการลงทุนขององค์กรในระยะยาว ระบบ LMS (Learning Management System) ของ FROG GENIUS คือคำตอบสำหรับการฝึกอบรมอย่างมีประสิทธิภาพในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการฝึกอบรมแบบตัวต่อตัว, Workshop, จัดสัมมนา หรือการใช้ ระบบ e-Learning ที่ทันสมัย พร้อมด้วยบริการให้คำปรึกษาด้านการฝึกอบรม การพัฒนาเนื้อหาให้สอดคล้องกับ Competency และ Training Roadmap รวมไปถึงบริการผลิตสื่อครบวงจร ทั้งวิดีโอ Motion Graphic และ Handout รองรับการเรียนรู้สำหรับธุรกิจยุคใหม่