การพัฒนาบุคลากรในองค์กร มีความสำคัญอย่างไร?

 

การเติบโตทางธุรกิจท่ามกลางการแข่งขันในยุคปัจจุบัน นอกจากสินค้า, บริการ หรือกลยุทธ์การบริหารแล้ว คุณภาพของบุคลากรก็ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กร แต่ความท้าทายซึ่งหลาย ๆ องค์กรพบ คือพนักงานยังมีศักยภาพไม่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ธุรกิจจึงต้องลงทุนในวิธีการพัฒนาบุคลากรในองค์กร เพื่อเสริมสร้างศักยภาพและทักษะให้สูงขึ้น ซึ่งถือเป็นวิธีที่คุ้มค่าต่อการลงทุนในระยะยาว

ในบทความนี้ จะขอนำเสนอ Solution ตลอดจนถึงเครื่องมือในการพัฒนาบุคลากรในองค์กรในยุคสมัยใหม่ ที่จะช่วยให้สามารถออกแบบการเรียนรู้ของบุคลากรแต่ละราย เพื่อปิดช่องว่าง เพิ่มศักยภาพ และเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันขององค์กรให้สูงขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ

 

การพัฒนาบุคลากร หมายถึงอะไร?

การพัฒนาบุคลากร หมายถึงกระบวนการต่าง ๆ เพื่อปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานของสมาชิกทีมในมิติต่าง ๆ ให้เป็นไปในทางที่ดี ไม่ว่าจะเป็นส่วนของทักษะ (Skill) และทัศนคติ (Attitude) โดยมีจุดประสงค์คือ ให้มีความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลง อีกทั้งสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อสอดคล้องกับวิสัยทัศน์, เป้าหมาย รวมถึงกลยุทธ์ขององค์กรในระยะยาว

 

ความสำคัญของการพัฒนาบุคลากรในองค์กร

  • เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

การพัฒนาทักษะกับองค์ความรู้อย่างมีแบบแผน จะช่วยให้บุคลากรมีทักษะ ความรู้ และสมรรถนะที่เหมาะสมกับบทบาทการทำงาน และสอดคล้องกับความต้องการและทิศทางขององค์กร นำไปสู่การปฏิบัติงานอย่างเป็นระบบ ช่วยรับมือกับความท้าทาย ไปจนถึงรูปแบบการทำงานอันซับซ้อนได้ดีขึ้น ส่งผลดีต่อการดำเนินการแบบองค์รวม พร้อมเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันขององค์กร

  • สร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน

ท่ามกลางโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรสดเร็ว องค์กรที่มีบุคลากรศักยภาพสูง สามารถปรับตัวอย่างรวดเร็ว ย่อมสร้างความได้เปรียบเสมอ การพัฒนาบุคลากรในองค์กรอย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้พร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลง ยืดหยุ่น และสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อเข้าสู่การแข่งขันอันท้าทายขึ้นได้

  • ลดอัตราการลาออก (Turnover Rate)

การพัฒนาบุคลากรในองค์กรยังแสดงถึงความใส่ใจต่อพนักงาน ซึ่งจะสร้างความผูกพัน ความภักดีต่อองค์กร อีกทั้งองค์กรยังรักษาพนักงานที่มีศักยภาพสูง (High-Potential Employees) ไว้ได้ โดยใช้ต้นทุนน้อยกว่าการสรรหาหรือฝึกอบรมพนักงานใหม่

  • ส่งเสริมวัฒนธรรมการเรียนรู้ในองค์กร

รากฐานสำคัญของการพัฒนาบุคลากร คือการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) หรือการส่งเสริมให้บุคลากร แสวงหาความรู้ใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการเพิ่มทักษะเดิม  การเรียนรู้ทักษะใหม่ และการส่งเสริมการแบ่งปันความรู้ภายในองค์กร เพื่อให้องค์กรและบุคลากรพร้อมสำหรับโอกาสกับความท้าทายในอนาคต

 

หลักการพัฒนาบุคลากรในองค์กร มีอะไรบ้าง?

เพื่อให้การพัฒนาบุคลากรเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ตามเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ขององค์กร ฝ่ายทรัพยากรบุคคล จึงต้องดำเนินตามกระบวนการ ซึ่งประกอบไปด้วย 4 หลักการสำคัญดังนี้

  • กำหนดวัตถุประสงค์และเป้าหมายในการพัฒนาบุคลากร

เมื่อสามารถระบุเป้าหมายได้แล้ว ต่อไปคือการกำหนดวัตถุประสงค์การพัฒนาให้ชัดเจน โดยควรมีความเฉพาะเจาะจง, วัดผลได้, บรรลุผลได้, สอดคล้องกับความต้องการกับทิศทางขององค์กร รวมถึงมีกรอบเวลาชัดเจน โดยทั้งหมดนี้จะใช้กำหนดการออกแบบหลักสูตร, กิจกรรม ตลอดจนวิธีพัฒนาให้ไปในทิศทางที่ต้องการ

  • ประเมินความต้องการในการพัฒนาบุคลากร

สิ่งแรกที่ต้องทำ คือการวิเคราะห์เพื่อระบุช่องว่างระหว่างสมรรถนะจากพนักงานที่มีอยู่ (Current Competencies) กับสมรรถนะขององค์กรคาดหวังหรือจำเป็นต้องมี (Required Competencies) ทั้งในปัจจุบันและอนาคต โดยอาศัยข้อมูลประกอบจากมิติต่าง ๆ เช่น ผลการประเมินการปฏิบัติงาน, ข้อมูลจากแบบสำรวจความคิดเห็นพนักงาน, การสัมภาษณ์หรือหารือกับผู้บังคับบัญชาสายตรง, ข้อเสนอแนะจากเพื่อนร่วมงานหรือผู้ใต้บังคับบัญชา ข้อมูลเชิงกลยุทธ์ และแผนธุรกิจขององค์กร การวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้ระบุสิ่งที่ควรพัฒนาได้อย่างแม่นยำ ทั้งในระดับองค์กร ระดับหน่วยงาน ไปจนถึงระดับบุคคล

  • เลือกวิธีการพัฒนาพัฒนาบุคลากรที่เหมาะสม

วิธีการพัฒนาบุคลากรที่เหมาะสม ควรพิจารณาจากวัตถุประสงค์ เนื้อหา, กลุ่มเป้าหมาย อีกทั้งทรัพยากรที่มี จากเครื่องมือและวิธีการต่าง ๆ เช่น

  • การฝึกอบรมในห้องเรียน (Classroom Training / Workshops)
  • การเรียนรู้ผ่านระบบออนไลน์ (E-learning / Online Courses / LMS)
  • การสอนงานและให้คำปรึกษา (Coaching & Mentoring)
  • การเรียนรู้จากการปฏิบัติงานจริง (On-the-Job Training - OJT)
  • การมอบหมายโครงการพิเศษ (Special Projects / Job Rotation)
  • การศึกษาดูงาน (Study Visits)
  • การสนับสนุนการศึกษาต่อ (Further Education Support)

โดยต้องเลือกวิธีการให้เหมาะสมกับกลยุทธ์ตามเป้าหมายขององค์กร เพื่อเพิ่มโอกาสความสำเร็จ

  • ติดตามและประเมินผลการพัฒนาบุคลากร

เพื่อให้ทราบว่าการลงทุนในการพัฒนาบุคลากรนั้นเป็นไปตามจุดประสงค์และคุ้มค่าหรือไม่ ต้องมีการติดตามพร้อมประเมินผลอย่างเป็นระบบ โดยอ้างอิงจากหลักเกณฑ์ดังนี้

  • ปฏิกิริยา (Reaction) : ความพึงพอใจของผู้เข้ารับการพัฒนา
  • การเรียนรู้ (Learning) : วัดระดับความรู้ ความเข้าใจ หรือทักษะซึ่งเพิ่มขึ้นหลังการพัฒนา
  • พฤติกรรม (Behavior) : สังเกตการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการทำงานหลังนำความรู้ไปปรับใช้
  • ผลลัพธ์ (Results) : วัดผลกระทบต่อตัวชี้วัดทางธุรกิจ เช่น ประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มขึ้น, คุณภาพงานดีขึ้น, หรืออัตราการลาออกลดลง (อาจใช้ Kirkpatrick Model เป็นแนวทาง)

ข้อมูลทั้งหมดนี้ จะถูกนำมาประเมินและวิเคราะห์ เพื่อวัดผลตอบแทนจากการลงทุน และสามารถใช้เป็น Feedback สำหรับการปรับปรุงแผน ไปจนถึงกระบวนการพัฒนาบุคลากรในรอบต่อไปให้ตรงตามความต้องการยิ่งขึ้น


วิธีการพัฒนาบุคลากรในองค์กร มีกี่วิธี?

วิธีการพัฒนาบุคลากรนั้น จะมีอยู่หลากหลายรูปแบบ เพื่อตอบสนองวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันในบริบทขององค์กร, กลุ่มเป้าหมาย, งบประมาณ, หรือทักษะที่ต้องการพัฒนา โดยแนวทางที่ใช้กันโดยทั่วไป ได้แก่

1. จัดฝึกอบรม (Training) 

การจัดฝึกอบรม เป็นวิธีที่มีความเป็นทางการ เน้นการถ่ายทอดความรู้และทักษะ ซึ่งสำคัญต่อบทบาท ไปจนถึงการปฏิบัติงาน สามารถดำเนินได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น การฝึกอบรมในห้องเรียน (Instructor-Led Training - ILT), การฝึกอบรมเสมือนจริงผ่านระบบออนไลน์ (Virtual ILT), การเรียนรู้ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ด้วยตนเอง (E-learning) ไปจนถึงการบริหารจัดการการเรียนรู้ผ่านระบบ LMS ที่สามารถติดตามพัฒนาการ สร้างคลังความรู้ขององค์กรได้

2. เข้าสัมมนา (Seminar)  

การจัดสัมมนาช่วยส่งเสริมการเข้าร่วมกิจกรรมนอกองค์กร เพื่อเปิดรับความรู้ใหม่, แนวปฏิบัติที่ดีที่สุด พร้อมแนวโน้มล่าสุดในสายอาชีพหรืออุตสาหกรรม เป็นการเปิดมุมมองให้กว้างขึ้น สร้างแนวคิดเชิงนวัตกรรม รวมถึงสร้างเครือข่ายทางวิชาชีพ สำหรับอนาคต

3. เรียนรู้จากการลงมือทำ (Workshop) 

เน้นการเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติจริง ให้ผู้เรียนมีส่วนร่วม และมีโอกาสฝึกฝนความสามารถ ลองแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า รวมถึงการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ช่วยให้บุคลากรเกิดความเข้าใจในเนื้อหาเชิงลึก เห็นภาพการนำไปปรับใช้ได้ชัดเจน พร้อมรับข้อมูลการ Feedback เพื่อการพัฒนาในทันที

4. ให้คำปรึกษา (Consult)

อีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญในการพัฒนาบุคลากร โดยผู้ให้คำปรึกษาจะแบ่งปันข้อมูล ข้อคิดเห็น หรือข้อเสนอแนะที่เหมาะสม เพื่อช่วยให้ผู้รับตัดสินใจและแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด นอกจากนี้ กระบวนการให้คำปรึกษายังช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ รวมถึงการตระหนักรู้ของบุคลากร ซึ่งนำไปสู่การพัฒนาความสามารถของตนเอง จนบรรลุเป้าหมายตามที่องค์กรต้องการได้ในระยะยาว

5. มอบหมายงาน (Job Assignment) 

หัวหน้างานจะมอบหมายโครงการใหม่ ๆ เพื่อเปิดโอกาสให้บุคลากรเรียนรู้และพัฒนาทักษะผ่านการปฏิบัติงานจริง โดยจะได้รับการฝึกฝนทักษะจำเป็นต่องานประจำ ควบคู่ไปกับงานที่มีความท้าทายมากขึ้น เช่น การแก้ไขปัญหาหน้างาน การรับผิดชอบโครงการขนาดใหญ่ หรือการริเริ่มงานด้วยตนเอง ซึ่งถือเป็นวิธีการพัฒนาบุคลากร ทั้งยังเป็นการเตรียมความพร้อมให้พนักงาน สำหรับบทบาทและความรับผิดชอบที่สูงขึ้นในอนาคต

6. หมุนเวียนงาน (Job Rotation)

ให้บุคลากรสลับมารับผิดชอบงานในบทบาทหรือหน่วยงานอื่นตามแผนและช่วงเวลาที่กำหนด เพื่อเรียนรู้กระบวนการทำงานหลากหลาย พัฒนาทักษะข้ามสายงาน พร้อมทั้งเข้าใจภาพรวมของธุรกิจ ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งวิธีนี้จะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในองค์กร พร้อมปูทางสู่เส้นทางความก้าวหน้าทางอาชีพ

7. เรียนรู้ด้วยตนเอง (Self Learning)

การเรียนรู้ด้วยตัวเอง คือบุคลากรสามารถเลือกหัวข้อที่ต้องการเรียนรู้และช่วงเวลาตามความสนใจ โดยมีองค์กรเป็นผู้สนับสนุน เช่น การจัดหาทรัพยากรอย่างแพลตฟอร์มการเรียนรู้ เช่น LinkedIn Learning, Coursera หรือให้เวลาสำหรับการเรียนรู้ การส่งเสริม SDL ช่วยสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาความสามารถในการปรับตัวเรียนรู้

 

ดังนั้น การพัฒนาบุคลากร หมายถึงการลงทุนเชิงกลยุทธ์จำเป็นต่อศักยภาพในการแข่งขันอย่างยั่งยืน ผ่านเครื่องมือหรือแนวทางอันหลากหลาย โดยมีเป้าหมายสำคัญเพื่อเสริมสร้างศักยภาพของบุคลากรในทุกระดับ ทั้งในด้านความรู้ ทักษะ และสมรรถนะ ให้สามารถปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจได้ พร้อมนำสิ่งที่เรียนรู้มายกระดับการปฏิบัติงานจริง ขยายขอบเขตให้พร้อมสำหรับความท้าทายรูปแบบต่าง ๆ จึงนับได้ว่าเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนผลิตภาพ นวัตกรรม พร้อมสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันอย่างยั่งยืนให้กับองค์กรในระยะยาว

 

เพื่อให้การพัฒนาบุคลากรเป็นไปได้อย่างมีแบบแผน และธุรกิจสามารถสร้างข้อได้เปรียบทางการแข่งขันอย่างยั่งยืน (Sustainable Competitive Advantage) คุ้มค่าต่อการลงทุนขององค์กรในระยะยาว ระบบ LMS (Learning Management System) ของ FROG GENIUS คือคำตอบสำหรับการฝึกอบรมอย่างมีประสิทธิภาพในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการฝึกอบรมแบบตัวต่อตัว, Workshop, จัดสัมมนา หรือการใช้ ระบบ e-Learning ที่ทันสมัย พร้อมด้วยบริการให้คำปรึกษาด้านการฝึกอบรม การพัฒนาเนื้อหาให้สอดคล้องกับ Competency และ Training Roadmap รวมไปถึงบริการผลิตสื่อครบวงจร ทั้งวิดีโอ Motion Graphic และ Handout รองรับการเรียนรู้สำหรับธุรกิจยุคใหม่

 

Related Article